วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555


นักวิจัยชี้ ดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

ผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยในสหรัฐฯพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วหรือมากกว่านั้น อาจช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้
ผลการศึกษาที่นำออกเผยแพร่บนวารสารมะเร็งระบาดวิทยา สิ่งบ่งชี้ทางชีววิทยาและการป้องกัน ที่ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เป็นสตรีพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟวันละ 4 ถ้วยหรือมากกว่านั้น มีความเสี่ยงในการพัฒนาของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ได้มากกว่าผู้ที่ดื่มน้อยกว่า 1 ถ้วยต่อวัน
ทั้งนี้ โดยทั่วไปผู้หญิงที่ไม่ว่าจะดื่มกาแฟหรือไม่ อาจมีการพัฒนาไปสู่การเป็นโรคมะเร็งได้ค่อนข้างน้อย โดยในรอบกว่า 26 ปีที่ผ่านมา มีสตรีจำนวนเพียง 672 รายจาก กลุ่มศึกษา 67,000 รายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
นักวิจัยได้สำรวจพยาบาลกว่า 67,000 คนในสหรัฐฯ พบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟมากมีโอกาสลดลง 25 % ที่จะเป็นมะเร็งที่มดลูกเมื่อเปรียบเทียบกับสตรีที่ดื่มกาแฟโดยเฉลี่ยน้อยกว่าวันละ 1 แก้ว นักวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้ว่ากาแฟคือสาเหตุที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลดลง  แต่ผลการศึกษาชิ้นนี้ได้ตอกย้ำผลการศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้ที่ให้ผลในลักษณะคล้ายคลึงกัน
นายเอ็ดเวิร์ด โจวานนุชชี นักวิจัยอาวุโสคณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด กล่าวว่ากาแฟโดยตัวเองอาจมีประโยชน์บางประการ โดยสามารถลดระดับของอินซูลินและฮอร์โมนเอสโตรเจนที่หมุนเวียนในร่างกาย ซึ่งทั้งสองชนิดมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
นักวิจัยทำการสำรวจปัจจัยอื่นๆ ที่จะมีผลต่อการเป็นมะเร็ง เช่น น้ำหนักตัว ประวัติตั้งแต่แรกเกิด การใช้ฮอร์โมนหลังวัยหมดประจำเดือน  ยาเม็ดคุมกำเนิด แต่ทั้งหมดไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงเป็นมะเร็งลดลงในหมู่คนที่ดื่มกาแฟ
นักวิจัยเตือนว่า การดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วอาจไม่เป็นผลดีนัก โดยเฉพาะกับผู้ที่มีร่างกายอ่อนไหวต่อการได้รับสารคาเฟอีน  และแม้นักวิจัยพบว่า กาแฟที่สกัดสารคาเฟอีนทำให้ความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่ำลง แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันที่ชัดเจนทางสถิติ และในทางทฤษฎี  การใส่น้ำตาลและครีมในกาแฟก็จะทำให้อ้วน ซึ่งความอ้วนคือปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง


เกร็ดความรู้ สารอาหารที่ทำให้ผมสวย

อาหารที่ทานในแต่ละวัน มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมแค่ไหน? และเส้นผมต้องการสารอาหารชนิดใดเพื่อบำรุงให้สวยงาม
ผมแต่ละเส้นมีระยะเวลาในการเติบโตประมาณ 6-7 ปี จากนั้นจึงจะหลุดร่วงไปตามธรรมชาติแล้วมีผมเส้นใหม่ขึ้นมาแทน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เส้นผมมีวงจรการเจริญเติบโตตามปกติ เพราะอาจต้องเผชิญกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการดูแลอย่างไม่ถูกต้องหรือขาดสารอาหาร เนื่องจากเส้นผมเป็นสิ่งที่สะท้อนสุขภาพโดยรวม ซึ่งแร่ธาตุที่ทำให้เส้นผมเจริญเติบโตเร็วประกอบด้วย “ธาตุเหล็ก”ที่มีในเซลล์เม็ดเลือดแดง ธาตุเหล็กทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมได้ดีและทำให้เส้นผมไม่เปราะขาดง่าย
“สังกะสี” เป็นธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของทุกอวัยวะในร่างกายและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการขาดร่วงของเส้นผม มีมากในงาและดาร์ค ชอคโกแลต ส่วน“อินโนซิทอล”ช่วยในการย่อยไขมันให้กลายเป็นโมเลกุลเล็กๆ และช่วยในการสร้างเซลล์กระดูกใหม่ๆ เซลล์เส้นผม ผิวหนัง และเยื่อหุ้มเซลล์
ด้านวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของผมได้แก่ “วิตามินเอช”ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ไบโอตินหรือวิตามินบี 7 พบได้ในถั่วและไข่แดง วิตามินเอชจะช่วยป้องกันการเกิดผมขาวและผมหลุดร่วง “วิตามินเอ”ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และบำรุงผม มีมากในเนื้อสัตว์ ไข่ ชีส ผักขม ปลา นม บร็อคโคลี แครอทและผักกะหล่ำ
“วิตามินซี”จะช่วยสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผมไม่เปราะหักง่ายและกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม อย่างไรก็ตามควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซี อย่างฝรั่งหรือส้ม มากกว่าทานวิตามินซีแบบเม็ด ยกเว้นตามคำสั่งแพทย์ ด้าน“วิตามินอี”ทำให้โลหิตไหลเวียนบริเวณหนังศีรษะได้ดี พบมากในผักใบเขียว ถั่วเหลือง แต่ผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงไม่ควรทาน
สุดท้าย“วิตามินบี5” ทำให้เส้นผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย และป้องกันการเกิดผมขาว มีในอาหารหลากหลายชนิด เช่น ตับ เครื่องในสัตว์ ไข่แดงและผัก